เปิด 15 เมือง ที่มีบรรยากาศ สุดแสนโรแมนติก ที่คู่รักทุกคู่ ควรจะไปสัมผัสบรรยากาศสักครั้งในชีวิต พลาดแล้วจะเสียดาย อยากไปที่ไหน เลือกกันได้เลย
1. เมืองบรูกส์, ประเทศเบลเยี่ยม
บรูกส์ (Bruges) เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของจังหวัดฟลานเดอร์ตะวันตก ในบริเวณเฟลมมิชในประเทศเบลเยี่ยม ตัวเมืองตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ศูนย์ประวัติศาสตร์ของเมืองได้รับเลือกให้เป็นเมืองในมรดกโลกของยูเนสโก ทางตอนเหนือของเมืองมีลำน้ำ ที่ใช้ในการคมนาคมรอบๆ ได้ ทำให้บรูกส์เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “เวนิสเหนือ”
2. เมืองอูบุด บนเกาะบาหลี
อูบุด (Ubud) เป็นเมืองหนึ่งบนเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่ทางตอนกลางของเชิงเขา ในอำเภอกียาญาร์ รัฐบาลสนับสนุนให้อูบุดเป็นเมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรมบาหลี ธุรกิจหลักของเมืองจึงหนีไม่พ้นธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นหลัก อูบุดมีพื้นที่ที่ล้อมรอบตัวเมือง ประกอบไปด้วย นาข้าว ไร่ และสวนป่าของชาวบ้าน รวมถึงสถานที่อำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยว ทั้งร้านอาหาร บาร์ โรงแรม โฮสเท็ล และมัคคุเทศก์ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมือง ได้แก่ พระราชวังอูบุด และถ้ำโกอากาจะฮ์ เป็นต้น
3. เกาะสกาย, ประเทศสก๊อตแลนด์
เกาะสกาย (The Isle of Skye) เกาะที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสก๊อตแลนด์ เป็นที่ซึ่งมีภูมิประเทศอันน่าสนใจ ซึ่งเป็นทั้งที่ราบ เนินเขา และ แอ่งน้ำ ที่นี่จึงขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์มากสำหรับสัตว์ป่า และจุดชมวิวที่สวยงาม ความงดงามของที่ยังเหมือนดินแดนในเทพนิยาย ทั้งภูเขา สายน้ำ และหมู่บ้าน ที่ถูกห้อมล้อมด้วยบรรยากาศสุดโรแมนติก
4. เกาะปาดาร์, ประเทศอินโดนีเซีย
เกาะปาดาร์ (Padar Island) เกาะแห่งเทพนิยาย ตั้งอยู่ทางตะวันตกของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะโคโมโด เป็นเกาะเล็กๆ แต่ใหญ่เป็นอันดับสามของลาบวนบาโจ ทั้งหมดล้อมรอบด้วยอ่าวสีฟ้าคราม และมีชายหาดสามแห่ง โดยแต่ละแห่งจะมีสีหาดทรายที่ต่างกัน คือ สีขาวมุก สีดำ และอีกหนึ่งสีก็คือ สีชมพูอ่อนซึ่งหาดูได้ยากมาก ดังนั้นมันจงเป็นการผสมผสานที่หายาก และเป็นเอกลักษณ์ของเกาะแห่งนี้
5. เมืองชิงก์ แทร์เร, ประเทศอิตาลี
ชิงก์ แทร์เร (Cinque Terre) เมืองติดทะเลในเขต Liguria ของประเทศอิตาลี และสถานที่เที่ยวที่หลายๆ คนตกหลุมรัก Cinque Terre มีหมู่บ้าน 5 หมู่บ้านอยู่ติดกัน และเป็นเมืองที่ได้รับการยกให้เป็น UNESCO World Heritage เพราะชายหาด ทะเล ภูเขา ในแถบนั้นสวยงามมากๆ และเป็นพื้นที่อนุรักษ์ของประเทศอิตาลี
6. เมืองเกียวโต, ประเทศญี่ปุ่น
นครเกียวโต (Kyoto) เป็นเมืองหลักของจังหวัดเกียวโต และเป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น เกียวโตตั้งอยู่กลางหุบเขาในลุ่มน้ำยามาชิโระ (หรือลุ่มน้ำเกียวโต) ทางฝั่งตะวันออกของที่ราบสูงทัมบะ ลุ่มน้ำยามาชิโระนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาสามด้านคือ ฮิงาชิยามะ คิตายามะ และนิชิยามะ มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลเพียง 1,000 เมตร
7. สาธารณรัฐมัลดีฟส์
มัลดีฟส์ (Maldives) หรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ (Republic of Maldives) เป็นประเทศที่มีพื้นที่ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการังจำนวนมากในมหาสมุทรอินเดีย และตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดียและประเทศศรีลังกา มีประชากรอาศัยอยู่เพียงประมาณ 200 เกาะ และได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 74 เกาะ
8. ปราสาทนอยชวานสไตน์, ประเทศเยอรมนี
ปราสาทนอยชวานสไตน์ (Schloss Neuschwanstein Castle) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ แถบรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างในสมัยพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845–1886 เป็นปราสาทที่งดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ และโตเกียวดิสนีย์แลนด์ รวมไปถึงที่แดนเนรมิต ทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชมปราสาทแห่งนี้ ถึงปีละ 1.3 ล้านคน โดยมากถึงวันละ 6,000 คนในช่วงฤดูร้อน
9. บิ๊กเซอร์, รัฐแคลิฟอร์เนีย
เส้นทางการขับรถเที่ยวแบบบรรยากาศดี วิวสวยอันดับต้นๆ ของโลก ชื่อของบิ๊กเซอร์ จะต้องเป็น 1 ในนั้นแน่นอน เพราะเป็นถนนที่สร้างขึ้นเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งตลอดทั้งเส้นทางจะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้เที่ยวชมเยอะมากๆ วิวของท้องทะเลและหน้าผาหินริมชายฝั่งทะเล ที่ถูกปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าสีเขียว มีหาดทรายให้ได้แวะพักนั่งเล่น อากาศเย็นสบาย และสดชื่น
10. เกาะบอราบอรา, เฟรนช์พอลินีเชีย
เกาะบอราบอรา (Bora Bora) เป็นเกาะแห่งหนึ่งของหมู่เกาะโซไซเอตีในเฟรนช์พอลินีเชีย ดินแดนโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ลักษณะเป็นเกาะที่ปกคลุมไปด้วยป่าเขตร้อน มีซากภูเขาไฟหลายลูก พื้นทะเลนิ่ง เพราะมีเทือกปะการังล้อมรอบเกาะ และมีหาดทรายที่สวยงาม
11. แสงเหนือ, ประเทศไอซ์แลนด์
ส่วนที่ทำให้ไอซ์แลนด์ต่างจากประเทศอื่น ก็คือ คุณสามารถที่จะมองเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือได้ แทบทุกที่ภายนอกเมืองหลวงของไอซ์แลนด์ อย่าง เรคจาวิค (Reykjavik) โดยจุดที่ดีที่สุดได้แก่ Thingvellir National Park และ Kirkjufell
12. เกาะคาไว, รัฐฮาวาย
เกาะคาไว (Kauai) เป็นเกาะที่เก่าแก่ที่สุดทางธรณีวิทยาของหมู่เกาะฮาวาย มีพื้นที่ 562.3 ตร.ไมล์ เป็นเกาะใหญ่เป็นอันดับ 4 ของหมู่เกาะฮาวาย และเป็นเกาะใหญ่เป็นอันดับ 21 ของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะโอวาฮู จากการสำรวจประชากรในปี ค.ศ. 2010 เกาะมีประชากร 67,091 คน
13. ซันโดรีนี, ประเทศกรีซ
ซันโดรีนี (Santorini) เป็นเมืองบนเกาะตอนใต้ของทะเลอีเจียน ประเทศกรีซ มีความสวยงามจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง ได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวว่าเป็นเกาะอันดับ 2 ของโลกที่พวกเขาอยากมา ซึ่งมีสถานทีสำคัญ เช่น ยอดเขาโปรฟีติสอีเลียส ซึ่งเป็นจุดชมความงดงามของเกาะซันโดรีนี
14. เวนิส, ประเทศอิตาลี
เวนิส (Venice) เป็นเมืองหลักของแคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี เมืองเวนิสได้รับฉายาว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก (Queen of the Adriatic), เมืองแห่งสายน้ำ (City of Water), เมืองแห่งสะพาน (City of Bridges) และเมืองแห่งแสงสว่าง (The City of Light) เมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวนมากเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเอเดรียติก ในภาคเหนือของประเทศอิตาลี
15. ปารีส, ประเทศฝรั่งเศส
ปารีส (Paris) เป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก และด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังแห่งหนึ่งในโลก โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 30 ล้านคนต่อปี
By: Bell Boy
ขอบคุณ ข้อมูลจาก sanook.com
สนใจแพคเกจท่องเที่ยว, ตั๋วเครื่องบินทั่วโลก หรือบัตรท่องเที่ยวต่างๆ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ 02-2945598, 092-294 5598
หรือ คลิ๊ก https://www.itravelroom.com/